พูดถึงรูเล็ตแล้ว หลายๆคนอาจจะติดภาพในหนัง ที่มักเห็นตัวละครที่ดวงดี
ท้ายเลขในช่องสีแดงหรือดำแล้วฟลุคถูก ได้รางวัลกลับไปมากมาย
หรือไม่ก็พลิกล๊อคหมดตัวกันอยู่บ่อยๆ แต่เอาเข้าจริงแล้ว
โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ที่จะถูกรางวัลแจคพอตแบบที่เราเห็นๆกันมา มันมากหรือน้อยแค่ไหนกัน
ที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นจริงได้
เราลองมาดูกันว่าในกระดานของเกมรูเล็ต ปกติแล้วจะมีตัวเลือกให้เห็นคือ 1 – 18 และ 19 -36
ที่อยู่บนกระดานซึ่งก็มีไว้สำหรับการให้ผู้เดิมพันได้ทำการทายผล โดยการวางเงินแทง สูง-ต่ำ
ซึ่งจากตรงนี้เอง อาจทำให้คนมองการเล่นรูเล็ตเป็นเกมที่มีความเสี่ยงแบบ 50:50
หรือก็คือมีโอกาสที่จะได้หรือเสียเป็นครึ่งต่อครึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว รูเล็ต
เป็นเกมที่สามารถเลือกเล่นได้แบบ สูง-กลาง-ต่ำ เพราะมีการแบ่งเลขเอาไว้ จริงๆคือ 3 ส่วน
จำนวนเลขต่อส่วนอยู่ที่ละ 12 เลข ไม่นับรวมเลข 0 ซึ่งหากเราตีเป็น %
หรือร้อยละจะเท่ากับความน่าจะเป็นของแต่ละส่วนอยู่ที่ 33.33% และถ้าหากคุณแทงแบบเซตแล้วถูก
คุณจะได้รางวัลคูณ 3 เท่ารวมทุน จากโอกาสที่น้อยลง คือ 1/3 และแน่นอนว่าคุณสามารถแทงได้ 2
เซตเช่นกัน ซึ่งจะให้โอกาสชนะที่มากสุด
แต่ในทางกลับกันก็จะได้อัตราผลตอบแทนที่ต่ำลงเช่นเดียวกัน
แต่อย่าลืมว่าโอกาสความน่าจะเป็นที่คุณจะชนะคือ 2/3 เท่ากับ 66.66% จะเห็นว่า % ชนะที่สูงกว่า
50%
ทั้งนี้ถ้าเราประเมินถึงค่า กลางในต่ำ หรือ กลางในสูง หรือนำเลขใน 3 ส่วนแบ่งไปเป็น 2 ส่วน
เลขส่วนกลางที่อยู่ในส่วนต่ำคือ 13-18 จำนวน 6 ตัวเลข
เลขส่วนกลางที่อยู่ในส่วนสูงคือ 19-24 จำนวน 6 ตัวเลข
หากเรามองย้อนกลับมาเป็นเกมสูงต่ำอีกครั้ง จะพบว่าตัวเลขจำนวน 13-18
ซึ่งหากนับรวมเลขต่ำทั้งหมดจะได้ 1-18 ฉะนั้นเลขกลางส่วนนี้จะเป็น 6/18 = 1/3 หรือ 33%
ฉะนั้นแล้วเราสามารถมองได้ว่าเลขส่วนกลางเป็นร้อยละ ที่น้อยกว่าหากมองในแง่ สูง-ต่ำ
ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ฉะนั้นเราสามารถจะวางส่วนเซตที่เป็นเซตตรงกลาง ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจ
และเพื่อพิสูจน์อัตราดังกล่าวนี้ อาจลองบันทึกสถิติดูก่อนจากการนั่งดูคนอื่นเล่นเป็นระยะเวลาหนึ่งๆ
หรืออาจจะลองไปเล่นด้วยตัวเองดูก็ได้ หากตัดเรื่องโอกาสความน่าจะเป็นออกไปแล้ว
เราอาจจะเจอตัวเองก็ได้ ว่าเราชอบแบบไหน ระหว่างความเสี่ยงสูง แต่ได้ผลตอบแทนเต็มจำนวน
กับยมอลดผลตอบแทนที่ได้ เพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว